แชร์ประสบการณ์เที่ยวกับทัวร์ GuruTrip อินเดีย มุมไบ ปูเน่ วิหารไกรลาศ

แชร์ประสบการณ์เที่ยวกับทัวร์ GuruTrip อินเดีย มุมไบ ปูเน่ วิหารไกรลาศ

สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากแชร์ประสบการณ์ทัวร์กับกูรูทริป GuruTrip ให้กับเพื่อนที่สนใจอยากเที่ยวอินเดียแบบเรียลเรียล ในช่วงเทศกาลประจำปีของอินเดียนั้น คเณศจตุรถี 2566 ที่เพิ่งผ่าน โดยทัวร์จัดทำเพื่อ ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในองค์พระพิฆเนศ ซึ่งทัวร์นี้จะเน้นไปทางการสักการะบูชาประกอบพิธิทางศาสนาฮินดูตามความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งเราได้มีโอกาสร่วมเดินทางไปกับครอบครัวคชานัน 
 

 

ช่วงวันที่ 24-29 กันยายน 2566 เลยเก็บภาพบรรยากาศระหว่างเดินทางครั้งนี้มาฝากเพื่อนๆพี่ๆชาวพันทิปให้ได้รับชมแบบละเอียดยิบเลย ว่าไปที่ไหนมาบ้าง อาหารอร่อยไหม นอนสบายไหม เผื่อเพื่อนๆ คนไหนอยากเดินทางไปเที่ยวแล้วยังไม่รู้ว่าอินเดียมีอะไรให้เราเที่ยว แล้วขอโอกาสนี้มาแนะนำเพื่อนๆไปในตัวเลยแล้วกัน หรือถ้าใครอยากไปจริงๆ แต่ยังลังเลอยู่ว่าไปเองดี หรือไปกับกรุ๊ปทัวร์ ลองติดต่อสอบถามไปที่ กูรูทริป GuruTrip ก่อนได้เลยค่ะ น้องเขาพร้อมให้คำแนะนำดีๆอธิบายถึงขั้นตอนต่างๆให้คุณสะดวกสบายในการเดินทางแน่นอน

 

 

โดยวันแรกพวกเรานัดรวมพลที่สนามบินสุวรรณภูมิเวลาประมาณ 12.00 น.ชั้น 4 เคาน์เตอร์ H/Jประตู 4 มีทีมงานจากคณะทัวร์กูรูทริป GuruTrip ยืนต้อนรับและให้คำแนะนำกับพวกเรา มีการแจกแจงอธิบายรายละเอียดที่สำคัญต่างๆให้กับลูกทัวร์ ทั้งยังมอบกระเป๋าสะพาย พร้อมกับคริสตัลพระศิวะให้กลับไปบูชาที่บ้าน คอยอำนวยความสะดวกติดแท็กกระเป๋า พาไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ยกกระเป๋าขึ้นสายพาน น้องทีมงานดูแลทุกขั้นตอน  สำหรับกระเป๋าเดินทางคราวนี้ให้โหลดน้ำหนักกระเป๋าได้ไม่เกินคนละ 30 กิโลกรัม เพราะว่าด้วยกฎหมายแรงงานของประเทศอินเดียห้ามยกของเกิน 30 กิโลกรัมต่อหนึ่งชิ้น ซึ่งถ้าหากใครยังไม่เคยเดินทางไปอินเดีย ไม่ต้องกังวลใดใด เพราะทางทีมงานกูรูทริป เขาจัดเตรียมการทุกขั้นตอนไว้ให้เราเรียบร้อย

 

 

การเดินทางครั้งนี้สู่มุมไบ ประเทศอินเดีย ครั้งนี้พวกเราบินกับ การบินไทย Thai Airways เที่ยวที่ TG317 ถึงอินเดียประมาณ 22.00 น. ที่สนามบินมุมไบราวๆ 4 ชั่วโมง ก่อนออกจากสนามบินมุมไบมีการมอบช่อกุหลาบต้อนรับคณะทัวร์ หลังจากนั้นลากกระเป๋ามาขึ้นรถบัสที่มารอรับพวกเรา น้องทีมงานมาช่วยจัดเรียงกระเป๋าสัมภาระให้เรียบร้อย มุ่งหน้าไปโรงแรมซาฮาร่า สตาร์ (SAHARA STAR HOTEL) ที่มุมไบ โรงแรมหรูระดับห้าดาว ห่างจากสนามบินเพียง 20 นาที

 

 

DAY 1 - 25 SEP 23

 

 

เริ่มต้นเช้าตรู่วันแรกเรามุ่งหน้าสู่เมืองออรังคาบัด (Aurangabad) เพื่อไปที่วิหารเขาไกรลาศ ซึ่งใช้เวลาเดินทางพอสมควร ทีมงานกูรูทริปจึงพาทานมื้อเที่ยงอาหารบุพเฟ่ที่ Spree Hotel อาหารรสชาติถูกปากทุกเมนู เวลคัมม์ดริ้งเป็นน้ำเปปเปอมิ้นท์ จำได้แม่น หลังทานเสร็จ ผจก.และเชฟยังขอร่วมถ่ายรูปหมู่กับพวกเราแบบเป็นกันเองน่ารักเว่อร์ และเมื่อถึงทางเข้า เขาวิหารไกรลาศ (The Kailasa Temple) แล้วพวกเราต่อแถวที่ประตูทางเข้าโดยทีมกูรูทริปได้ทำการซื้อตั๋วเข้าชมให้กับลูกทัวร์ตั้งแต่เราจองทัวร์แล้วเรียบร้อยแล้ว

 

 

จากนั้นเดินชมโบราณสถาน วิหารเขาไกรลาศ ถ้ำเอลโลรา (Ellora Caves) วิหารหินยักษ์ขนาดใหญ่ที่แกะสลักเขาหินทั้งก้อน ทั้งยังเป็นมรดกโลก เป็นวิหารศักดิ์สิทธิ์ภายในมีศิวะลึงค์ บริเวณโดยรอบเป็นประติมากกรรมที่สลักจากหินภูเขาทั้งสิ้น มีเทวรูป ประจำซุ้ม ทางเข้า หน้าบัน เสาหินตั้งตระหงานบอกได้เลยคุ้มค่าที่ได้มาชมความอัศจรรย์ และด้วยความโชคดีของพวกเราที่มีโอกาสได้ทำพิธีสวดมนต์สักการะพระศิวะ สรงน้ำศิวะลึงค์อีกด้วย  จากนั้นพวกเราได้เดินทางกลับมาทานมื้อค่ำ ที่ สกายรู๊บทอป ที่เมืองปูเน่ (Pune) อาหารหลากหลายรสชาติที่ถูกปาก พร้อมบรรยากาศดี  ฟิลลิ่งบาร์แอนด์เรสเตอร์ลอง อิ่มท้องกันแล้วพาเข้าพักเช็คอินที่โรงแรมคอนลาด (Conrad  Hotel)

 

 

DAY 2 - 26 SEP 23

 

 

วันนี้พวกเราร่วมรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมในแบบฉบับอลังการ อาหารปรุงเสร็จร้อนๆจากเตา เชฟแต่ละโซนของโรงแรมคอนลาด ดูเอาใจใส่ลูกค้ามาก ซึ่งเราประทับใจการบริการของที่นี่มาก เพราะคืนนี้เราก็นอนที่นี่อีก1คืน จากนั้นพวกเราเดินทางไปที่ วัดดั๊กทูเศรษฐ์ 

 

 

ไหว้สักการะขอพรที่เทวาลัยพระพิฆเนศ ที่จัดสร้างบริเวณหน้าร้านขนม KAKA HALWAI ในช่วงเทศกาล คเณศจตุรถี นั่นเอง ต้องบอกแบบนี้นะในช่วงเทศกาลคเณศจตุรถี วัดจะเคลื่อนย้ายองค์ดั๊กทูเศรษฐ์ ออกมาด้านนอกวัดเพื่อให้ผู้จิตศรัทธาเลื่อมใสทั้งประชาชนชาวอินเดียหรือนักท่องเที่ยวได้สักการะและทำพิธีของพราหมณ์ฮินดู ได้สะดวกยิ่งขึ้น ระหว่างเดินไปบนถนนลักษมี (Laxmi Road) จะมีร้านขายสิ้นค้าต่างๆ  ขนมไหว้พระพิฆเนศ พวงมาลัย เสื้อผ้าแบบฉบับอินเดียมากมาย หรือแม้กระทั้งเพ้นเฮนน่าก้อมี ให้อารมณ์เหมือนกาชาดประจำปีจัดยิ่งใหญ่ มีซุ่มพระพิฆเนศที่แต่ชุมชม หรือบุคคลสำคัญที่เค้าจัดสร้างให้สักการะกับประชาชนคนสัญจรไปมาอย่างยิ่งใหญ่ มีเครื่องดนตรีบรรเลงตลอดทาง แต่ด้วยไปกับทัวร์กูรูทริป น้องทีมงานจะคอยนำทางอำนวยความสะดวกในการเดินเป็นแถวกับประชาชนที่มาร่วมงานอย่างคับคลั่ง หลังจากนั้นทีมงานพาพวกเรามาในวัดดั๊กดูเศรษฐ์เพื่อสักการะขอพร องค์พระศิวะและเช่าซื้อองค์พระพิฆเนศไม่ว่าจะเป็นองค์เป็นเหรียญหลากหลายขนาดให้เลือกซื้อ ถ้าเราไม่แม่นภาษา น้องทีมงาน กูรูทริปเค้าก็ช่วยถามช่วยเลือกให้เสร็จสับตามประสงค์พวกเราเลย มื้อเที่ยงเราเดินทางไปร้าน HAPAA – Asian Stir ในเมืองปูเน่ ห่างจากโรงแรมคอนลาด ประมาณ 10 นาที เป็นร้านอาหารเอเชี่ยนรสชาติดีเลยที่เดียว บรรยากาศคล้ายคาเฟ่ ขนาดย่อมประดับด้วยต้นไม้ล้อมรอบ มีโซนแอร์โอเพ้นแอร์ให้นั่ง  อิ่มจากมื้อเที่ยงในโปรแกรมคือพาพวกเราเดินช้อปปิ้งบนถนนลักษมีเพิ่ม เพราะด้วยที่ว่าพวกเรามากันหลายคน เพราะต้องใช้เวลาในการเลือกซื้อ ทีมงานก้อพาไปเก็บตก ส่วนใครเหนื่อยสามารถพักผ่อนที่โรงแรมต่อได้เลย มีสระน้ำให้ลงเล่น พื้นที่ห้องนอนกว้าง มีทีวียันห้องน้ำ เรียกว่าอำนวยความเต็มที่ 

 

 

มื้อค่ำ - ของวันเป็นบาร์แอนท์เรสเซอร์ลองที่ PUBLIQ ในเมืองปูเน่ใต้แสงไฟสลัว บรรยากาศท่ามกลางสายฝนโปรยปาย ทีมงานกูรูทริปทำเซอร์ไพร์โดยการจัดเค้กวันเกิดให้กับพวกเราที่เกิดในเดือนกันยา บรรยากาศอบอุ่นมาก อาหารอร่อย ท่ามกลางเสียงเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ แถมทานเค้กกันถ้วนหน้า จำไม่ผิดมี3ก้อน แต่อิ่มมากเลย เสร็จแล้วนั่งรถกลับโรงแรมนอนกันเถอะ

 

DAY 3 - 27 SEP 23

 

เช้าตรู่ตื่นขึ้นมาพวกเราเก็บกระเป๋าลงไปพร้อมทานมื้อเช้าพร้อมวิวริมน้ำตกของโรงแรม หลังจากนั้นเดินทางต่อไปที่มุมไปเพื่อเยี่ยมชมที่โรงงานปั้นหล่อองค์ศรีคชานันขนาดสูง 2 เมตรที่จะนำร่วมขบวนคเณศจตุรถี ริมชายหาด จาปาตี เมืองมุมไบ ช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้น หลังจากนั้นพวกเราเดินทางไปทานมื้อเย็น ที่ร้าน India Bistro  ในมุมไบ เป็นภัตตาคารที่อาหารอร่อยอีกหนึ่งร้าน ที่มาอินเดียแล้วต้องมาลองลิ้มรสกันนนะคะ ส่วนตัวเลิฟเลย

 

 

หลังจากอิ่มท้องกันแล้วพวกเราเดินทางไปที่ ตลาดลาบัก Lal Baug Market คือช่วงเทศกาลรถติดมากพวกเราจึงต้องเดินด้วยเท้าแล้วบวกกับช่วงฤดูฝนเนาะ ต้องระมัดระวังรถลา แต่พวกเราใจที่ต้องการไปกราบไหว้สักครั้ง คนต่อแถวเบียดกันแน่น พวกเราก้อพร้อมใจกันเดินต่อแถวสักการะองค์ลาบักจาราชา จนสำเร็จสิ่งสมอารมณ์หมาย ใช้เวลานานพอสมควร ด้วยชาวอินเดียที่เค้าศรัทธาก้อมากโข ไหนจะพวกเราที่ร่วมเดินทางกันไปทริปนี้เกือบ60 ชีวิต อยากให้ทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนนี้ลองไปสัมผัสสักครั้ง คืนนั้นจำได้เกือบตีสามกว่าจะได้นอน แต่คุ้มค่ะสักครั้งในชีวิต ท่ามกลางสายฝนโปรย ช่วงกันยายน ฝนยังตกแต่ไม่มาก

 

 

DAY 4 - 28 SEP 23

วันนี้เราเดินทางไปสักการะขอพรพระพิฆเนศที่วัดสิทธิวินายักในเมืองมุมไบ พวกเราซื้อดอกไม้เครื่องสักการะ บริเวณหน้าวัดนำมาสักการะองค์ปฐมของพระพิฆเนศที่เกิดขึ้นธรรมชาติ เป็นที่ศรัทธาของชาวอินเดียและต่างชาติมาก สังเกตได้หลังจากที่พวกเข้าไปไหว้แล้ว มีผู้คนต่างเข้ามายืนรอต่อแถวเพื่อถวายดอกไม้สักการะเป็นจำนวนมาก โชคดีที่พวกเรามาแต่เช้าจึงไม่ได้ต่อคิวยาว

 

 

ถัดมาขึ้นรถมาทานมื้อกลางวันที่ร้าน Café Noorani ร้านอาหารที่อร่อย รสชาติมาตรฐานอาหารอินเดียแท้ดั่งเดิม ที่ติดอกติดใจหลายท่านเราร่วมนั่งทานในโต๊ะเดียวกันตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย สั่งเพิ่มไก่ทันดอรี่ กับแป้งนันชีสหอมนวลเนียนมากจริงๆ พอพวกเราอิ่มเติมแรงกันแล้วช่วงบ่ายคล้อย เตรียมตั้งขบวนแห่องค์คชานัน ลงสู่หาดจาปาตี มีนักดนตรีบรรเลงเพลงสนุกสนานมีความสุขทางใจโดยพร้อมเพียงเป็นขบวน ศาสนิกชนในอินเดียแห่มาร่วมงานเฉลิมฉลองวันประสูตรของพระพิฆเนศตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ในเทศกาลคเณศจตุรถีของอินเดียอย่างล้นหลาม ได้รับการสนับสนุนหน่วยงานรัฐของอินเดียจัดงานใหญ่โต โดยเทวรูปองค์พระพิฆเนศทำจากดินเหนียว เมื่อลอยสู่ทะเลจะละลายหายไป มีมากมายหลายปรางค์ ล้วนแต่มีความวิจิตรประณีตงดงาม สีสันสดใส ได้รับความสนใจอย่างมาก พวกเราชาวไทยที่มีความศรัทธาเลื่อมใส จึงไปร่วมเทศกาลนี้เพื่อน้อมส่งองค์สู่การเกิดใหม่ ดลบรรดาลประทานพร ท่ามบรรยากาศยามเย็น หลังจากนั้นได้ชมขบวนแห่ ก่อนนั่งรถไปรับประทานอาหารมื้อค้ำที่ร้าน Bombay Adda ในเมืองมุมไบ วินาทีที่เดินลงจากรถพนักงานร้านถึงขั้นเดินมาเสิร์ฟเวลคัมม์ดริ้ง พนักงานร้านติดสายข้อมือ พาขึ้นลิตฟ์ไปชั้นบน ภายในเหมือนคาเฟ่ มีดนตรีสดบรรเลงขับกล่อมพร้อมกับอาหารที่รสชาติเยี่ยมอีกร้าน แอร์เย็นฉ่ำ จากนั้นกลับโรงแรมนอนจ้า

 

 

DAY 5 - 29 SEP 23

 

 

       ช่วงเช้าของวันก่อนเดินทางกลับประเทศไทย พวกเราเก็บสัมภาระเดินทางไปไหว้สักการะพระแม่ลักษมีหน้าทองที่วัดพระแม่ลักษมี ในเมืองมุมไบ ก่อนเดินขึ้นบันไดของวัดจะมีร้านขายดอกไม้เพื่อใช้สักการะขอพร มีศาสนิกชนชาวอินเดียมากราบไหว้ขอพรไม่ขาดสายเป็นจำนวนมาก จากนั้นเราเดินทางไปรับประทานมื้อกลางวัน ที่ภัตตาคาร Nara Thai เป็นเมนูอาหารไทยทั้งหมดที่จัดขึ้นโต๊ะถือว่าอร่อยไม่แพ้ที่ประเทศไทย จากนั้นพวกเราเดินช้อปปิ้งย่าน ฮินมาตา Hindmata มีทั้งเสื้อผ้า สตรีทฟู๊ด ให้เลือกเยอะมากรายเรียงแถวตลอดแนวถนน ซึ่งต้องบอกเลยย่านนี้เสื้อผ้าราคาเป็นมิตร ต่อรองราคาได้ อาหารทานเล่นหลากรสชาติผสมเครื่องตามแบบฉบับอินเดียโดยแท้ ก่อนเดินทางกลับไทยด้วยสายการบินไทย Thai Airways เที่ยวที่ เที่ยวบิน TG318   

         ทริปนี้เป็นทริปแห่งความประทับอบอุ่นสนุกมีความสุข อาหารอร่อยตลอดทริป ทุกคนที่ไปมีหัวใจที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่น้อมส่งองคชานันของไทยร่วมเทศกาล คเณศจตุรถี เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้มีศรัทธาเลื่อมใสในองค์พระพีฆเนศ ต้องขอขอบคุณครอบครัวคชานันที่ให้เราได้ร่วมทริปแสวงบุญในครั้งนี้  และประทับใจการดูแลเอาใส่ใจดูแลของทีมงานกูรูทริป GuruTrip เป็นอย่างมาก ที่เตรียมการทุกอย่างให้ราบรื่นด้วยดีที่กินที่นอนเฟอร์เฟคและรู้สึกดีที่มาอินเดียครั้งแรกกับกูรูทริป หากใครสนใจที่อยากมีประสบการณ์ในการท่องเที่ยวดีๆ ต้องศึกษาเส้นทางการท่องเที่ยวก่อนไปให้ดี หรือไม่ลองให้กูรูทริป GuruTrip วางแผนให้รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://www.gurutrip.co.th/ ได้เลยขอบคุณค่ะ

ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
LineID
Add LINE Friends via QR Code
Share on social networks